ควรรู้! เติมลมยางเท่าไหร่ถึงเหมาะสม ยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปีควรเปลี่ยน?

ยางรถยนต์เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ต้องมีการหมั่นตรวจเช็คเป็นประจำ เพราะหากไม่ดูแลอาจทำให้ขณะขับขี่เกิดอุบัติเหตุได้ การเติมลมยางรถก็ไม่ควรมองข้าม ดังนั้น วันนี้เราได้นำความรู้เกี่ยวกับการเติมลมยางให้เหมาะสม การตรวจเช็คลมยางยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปีและควรเปลี่ยนตอนไหน อ่านได้ที่บทความนี้

เติมลมยางรถยนต์เท่าไหร่ถึงเหมาะสม

การเติมลมยางรถยนต์ให้เหมาะสมนั้นจะคำนวณจากขนาดของรถยนต์ ขนาดของยาง และจะต้องคำนึงถึง น้ำหนักของการบรรทุกของ หรือการบรรทุกผู้โดยสาร และต้องดูความเร็วของการขับขี่อีกด้วย ซึ่งเติมลงยางระดับแรงดันยางที่เหมาะสมมีดังนี้

1. รถยนต์ขนาดเล็ก (รถเก๋ง) ควรเติมลมยางรถประมาณ 30-32 PSI
2. รถยนต์ขนาดกลาง (รถSUV) ควรเติมลมยางรถประมาณ 30-35 PSI
3. รถยนต์ขนาดใหญ่ (รถบรรทุก) ควรเติมลมยางรถประมาณ 35-40 PSI

การตรวจเช็คลมยาง

หากเติมลมยางมากเกินไปหรือเติมน้อยเกินไป อาจทำให้รถส่ายได้หรือทำให้เกิดผลเสียต่อการควบคุมรถ ซึ่งการเติมลมยางรถให้เหมาะสมจะทำให้คุณขับขี่ได้ดีขึ้น ยางเกาะถนนมากขึ้น ช่วดลดการเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นการตรวจเช็คลมยางจึงสำคัญ ควรตรวจเช็คอย่างน้อยเดือนละครั้ง ซึ่งมีข้อดีของการตรวจเช็คลมยาง ดังนี้

1. หากเติมยางรถยนต์ให้เหมาะสม จะช่วยชะลอการสึกหรอของยางรถยนต์
2. หากเติมลมยางรถให้เหมาะสม จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ในการเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่บ่อยๆ
3. หากเติมลมยางรถให้เหมาะสม จะทำให้การขับขี่นุ่มนวลมากขึ้น และช่วยประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิง

ยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปี

การเปลี่ยนยางรถยนต์นั้นควรเปลี่ยนตามสภาพการใช้งาน หากมีการใช้รถยนต์วิ่งบนทางขรุขระมาก 2-3 ปี ควรมีการเปลี่ยนยางรถยนต์ หากใช้งานโดยการวิ่งทางปกติ 3-5 ปี หรือวิ่งไปแล้ว 50,000 กิโลเมตร ก็สมควรเปลี่ยนได้แล้ว และในทุกการวิ่งที่ 10,000-15,000 กิโลเมตร ควรมีการสลับล้อยางจากล้อหน้าสลับกับล้อหลัง หากมีเส้นไหนถูกใช้งานหนักเกินไป จะช่วยทำให้เกิดการสมดุลของล้อยาง

ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้

1. ดอกยางสึกหรอ

ดอกยางรถยนต์จะช่วยรีดน้ำเมื่อรถวิ่งในถนนที่เปียกหรือถนนที่มีน้ำขังและดอกยางที่ดีไม่ควรมีความลึกน้อยกว่า 1.5 มิลลิเมตร เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายให้การขับขี่ได้ วิธีวัดความลึกของดอกยางทำได้โดยนำเหรียญบาทไปเสียบในร่องยาง ซึ่งเหรียญบาทจะต้องลึกไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของเหรียญ หากต่ำกว่าเป็นสัญญาณที่ต้องเปลี่ยนยางใหม่ได้แล้ว

2. ยางแตกลายงา

วิธีสังเกตุว่ายางมีลอยแตกลายงาหรือไม่ คือ ควรเข้าไปมองหรือสังเกตุใกล้ ๆ หากยางมีรอยแตกลายงาหรือรอยย่น แสดงว่ายางเสื่อมสภาพแล้วควรที่จะเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันที เพราะหากยังมีการใช้งานอาจทำให้เกิดยางแตกระหว่างขับขี่ได้

3. ยางฉีกขาด

หากยางรถยนต์ฉีกขาดหรือเหยียบวัสดุมีคม ไม่ว่าจะเป็นการฉีดขาดแค่บางจุดก็ควรที่จะต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันทีเพราะมันอาจเกิดการรั่วซึม ทำให้ยางเสื่อมสภาพได้

4. ยางบวม

วิธีสังเกตุว่ายางบวมหรือไม่ คือ ขณะขับขี่ถ้ารถเกิดการอาการสั่น พวงมาลัยสั่นเมื่อขับขับรถด้วยความเร็ว หากลองตั้งศูนย์ถ่วมใหม่แล้วก็ยังไม่หาย นั่นคือสัญญาณว่ายางบวมแล้ว ควรที่จะเปลี่ยนยางใหม่ทันที

พอจะรู้แล้วใช่ไหมคะว่าควรจะเปลี่ยนยางรถยนต์ตอนไหน ต้องเติมลมยางเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมกับยาง และก่อนใช้รถทุกครั้ง Fasttabien ขอแนะนำให้ตรวจเช็ครถก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัยของคุณเองค่ะ และสำหรับใครที่อยากได้เลขทะเบียนรถสวย ทะเบียนรถมงคล เสริมดวงชะตาชีวิต เราขอแนะนำบริการ รับจองเลขทะเบียนกรุงเทพฯ การันตีไวกว่าจองเองเพียง 36 วิ จองสำเร็จจ่ายเงินทีหลัง ปลอดภัยแน่นอน สนใจใช้บริการ หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม Click >> จองทะเบียนรถ